ประวัติหลิวซือซือ ของ หลิว ซือซือ

หลิวซือซือเป็นนักแสดง และนักบัลเล่ต์ เริ่มเรียนบัลเล่ต์ตั้งแต่ 6 ขวบ ในชั้นเรียนระดับประถมศึกษา จากนั้นศึกษาต่อระดับชั้นมัธยมศึกษาในวิทยาลัยนาฏศิลป์เป่ยจิง ในปี2002 อาศัยพื้นฐานบัลเล่ต์ที่ดี เข้าศึกษาต่อในสาขาวิชาระบำบัลเล่ต์ หลิวซือซือรักบัลเล่ต์ และอยากเป็นครูสอนบัลเล่ต์ให้กับเด็กๆ เพียงเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม เธอเข้าสู่วงการบันเทิง

หลิวซือซือ รับบทนำ ในผลงานละครโทรทัศน์เรื่องแรก The Moon and the Wind (2005) ได้รับการชื่นชมทางการแสดง จากเรื่อง The Young Warriors (2006) ยอดขุนพลตระกูลหยาง and The Fairies of Liaozhai (2007) อิทธิฤทธิ์จิ้งจอกสวรรค์ มีชื่อเสียง ในบทบาท Mu Nianci (มู่เนี่ยนฉือ) จากเรื่อง The Legend of the Condor Heroes (2008) มังกรหยก(ก๊วยเจ๋ง-อึ้งย้ง) เป็นนักแสดงรับเชิญ ในบทผู้สืบทอด รุ่นเหลน จากเรื่อง The Heaven Sword and Dragon Saber (2009) ดาบมังกรหยก บทบาทต่อมา รับบท Long Kui (หลงขุย) ใน Chinese Paladin 3 เซียนกระบี่พิชิตมาร ภาคสาม หลิวซือซือมีพัฒนาการทางด้านการแสดง ความสามารถที่เพิ่มขึ้น และได้รับบทที่ท้าทายมากขึ้น

ในปี 2011 หลิวซือซือประสบความสำเร็จ จากละครสองเรื่อง รับบท Yan Sanniang (เหยียนซานเหนียง) ใน The Vigilantes In Masks (จอมยุทธพิสดาร อี้จือเหมย) และ บทMa'ertai Ruoxi หม่าเอ่อร์ไท้ รั่วซี (Zhang Xiao จางเสี่ยว) ในละครข้ามกาลเวลา เรื่อง Scarlet Heart (ฝ่ามิติลิขิตสวรรค์) และได้รับรางวัลด้านการแสดงอย่างมากมาย นอกจากนี้หลิวซือซือยังร้องเพลงประกอบละครเรื่องนี้อีกด้วย เปลี่ยนแปลงจากละครย้อนยุค เป็นละครสมัยใหม่ ใน Scarlet Heart 2 หลิวซือซือมีผลงานภาพยนตร์สารคดี เรื่องแรกที่สร้างแรงบันดาลใจ เรื่อง The Next Magic (2011) ที่กำกับโดย Zhuo Li ชาวไต้หวัน